หากคุณจำเป็นต้องนำกีต้าร์หรือเครื่องดนตรี อื่น ๆ เดินทางไปด้วยขณะท่องเที่ยว และกำลังกังวลใจเกี่ยวกับเรื่องของความปลอดภัยของเครื่องดนตรีเหล่านั้น ในบทความนี้เรามีคำแนะนำที่เป็นประโยชน์กับคุณ สิ่งที่คุณควรทำเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางมีอะไรบ้างไปดูกันเลย
1. ตรวจสอบนโยบายเกี่ยวกับสัมภาระ
ไม่ว่าคุณจะเดินทางโดยเครื่องบิน รถไฟ รถบัส เรือหรือรถยนต์ คุณควรตรวจสอบนโยบายเกี่ยวกับสัมภาระเสมอ น้ำหนักและขนาดสูงสุดอาจแตกต่างกันไปแม้ในแต่ละสายการบิน การรู้นโยบายล่วงหน้าจะช่วยให้คุณลดปัญหาได้มากและอาจทำให้คุณตัดสินใจเตรียมพร้อมได้อย่างเหมาะสม
หากคุณมีเครื่องดนตรีขนาดเล็ก เช่น วิโอลา คลาริเน็ตหรือฟลุต คุณอาจจะมีปัญหาเล็กน้อยในการพกพาเครื่องดนตรีติดตัวไปด้วย ถึงอย่างนั้นคุณควรศึกษานโยบาย ทั้งสำหรับกระเป๋าเดินทางที่โหลดใต้ท้องเครื่องและนำขึ้นเครื่อง คุณอาจต้องการซื้อที่นั่งเพิ่มสำหรับเครื่องดนตรีของคุณ (อย่าลืมตรวจสอบก่อนว่าได้รับอนุญาตหรือไม่)
ยิ่งคุณรู้มากเท่าไหร่คุณก็จะสามารถคลี่คลายปัญหาได้เร็วเท่านั้นหากพนักงานขอให้คุณเปลี่ยนแปลงบางสิ่งในช่วงสุดท้ายก่อนเดินทาง
2. ใช้งาน Hard Case (เคสกันกระแทก)
แน่นอนว่าเคสแบบนิ่มอาจจะง่ายกว่าในการถือหรือสะพาย แต่เมื่อต้องเดินทางคุณควรคำนึงถึงความปลอดภัยมากกว่าความสะบาย หากคุณยังไม่มี Hard Case สำหรับกีต้าร์หรือเครื่องดนตรี ถึงเวลาแล้วหละที่จะต้องซื้อมัน พนักงานบริการบนยานพาหนะมักจะโอนถ่ายสัมภาระของผู้โดยสารด้วยความรวดเร็วอยู่เสมอ พวกเขาจึงไม่ลังเลที่จะโยนมันและลืมคำนึงถึงการแตกหักในบ้างครั้ง
การใช้เคสกันกระแทกจะช่วยป้องกันควรเสียหายที่อาจเกิดจากการขนถ่ายสัมภาระได้ นอกจากนี้คุณไม่ต้องเสี่ยงกับฝนตกหรือสิ่งอื่น ๆ ที่อาจทำให้เครื่องดนตรีของคุณเสียหาย ทั้งนี้อย่าลืมเลือกเคสที่มีขนาดเหมาะสมกับเครื่องดนตรีของคุณ
3. ใส่แผ่นกันกระแทก
เครื่องดนตรีของคุณจะต้องเข้ากับเคสได้อย่างเหมาะสม แต่ในกรณีที่มันไม่พอดีหรือมีช่องว่างภายใน คุณสามารถใส่ตัวกันกระแทกเข้าไปได้ เช่น แผ่นโฟมกันกระแทก เสื้อผ้าหรือผ้า เป็นต้น เพื่อให้เครื่องดนตรีของคุณอยู่กับที่และไม่กระแทกไปมาระหว่างผนังเคส นอกจากนี้คุณอาจต้องการป้องกันส่วนบนของเครื่องดนตรี โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีองค์ประกอบบางส่วนที่เป็นแบบเปิด เช่น สายกีตาร์
4. มาถึงก่อนเวลา
เป็นความคิดที่ดีที่จะออกเดินทาง แต่เนิ่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณเดินทางพร้อมกับเครื่องดนตรี การไปสนามบินหรือสถานีขนส่งก่อนเวลาจะทำให้คุณมีเวลาแก้ไขปัญหาที่คุณอาจพบได้ เช่น พนักงานที่บอกคุณในนาทีสุดท้ายว่าต้องมีการตรวจเช็คเครื่องดนตรีของคุณก่อน นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณสามารถได้จุดที่ดีที่สุดบนรถไฟหรือรถประจำทาง ในการจัดเก็บสัมภาระเพื่อหลีกเลี่ยงการจัดเก็บในตำแหน่งที่คุณไม่ต้องการ เนื่องจากกังวลว่าจะปเกิดความเสียหาย
5. ติด Fragile Sticker (สติ๊กเกอร์คำเตือน)
อย่าลืมติด Fragile Sticker บน Hard Case ของคุณ เพื่อแจ้งให้ทราบว่า ระวังแตก ห้ามเหยียบ ห้ามโยน สัมภาระของคุณ สิ่งนี้ไม่ได้รับประกันว่าเครื่องดนตรีของคุณจะได้รับการดูแลด้วยความระมัดระวัง แต่ก็ทำให้มีโอกาสมากขึ้น อย่างน้อยที่สุดก็หวังว่าพนักงานจะเห็นมันและระวังให้มากขึ้น
6. ตรวจสอบประกันสำหรับเครื่องดนตรี
หวังว่ามันจะไม่เกิดขึ้นกับคุณ แต่ในกรณีที่โชคร้ายมาก มีบางอย่างเกิดขึ้นกับเครื่องดนตรีของคุณ คุณควรเตรียมพร้อม ตรวจสอบประกันสำหรับเครื่องดนตรี ก่อนออกเดินทางและอย่าลืมถ่ายรูปเครื่องดนตรีก่อนและหลังการเดินทาง ถ่ายภาพทุกด้านของเครื่องดนตรีทั้งในระยะใกล้และไกล เพื่อให้คุณมีเอกสารยืนยันที่เหมาะสมในกรณีที่เกิดเหตุการณ์เลวร้ายที่สุด
